ผลการวิจัยในสหรัฐฯ พบว่า การส่งข้อ ความสั้นทางโทรศัพท์มือถือหรือเอสเอ็มเอส มีอันตรายกว่าการขับขี่ขณะมึนเมา สุราหรือกัญชา ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย หน่วยงานควบคุมความปลอดภัยทางรถไฟของที่ นั่น มีคำสั่งห้ามผู้ปฏิบัติการรถไฟใช้โทรศัพท์มือถือเป็นการชั่วคราว หลัง จากผลสอบสวนอุบัติเหตุทางรถไฟเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าเกิดจากวิศวกรรับส่งเอส เอ็มเอสขณะปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งใหญ่ที่สุดใน รอบ 15 ปี ใกล้นครลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิต 25 คน และ บาดเจ็บอีกนับร้อย ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ พบ ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นในขณะที่วิศวกรควบคุมการเดินรถกำลังรับส่งเอสเอ็ม เอส เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ทำให้หน่วยงานการรถไฟของรัฐแคลิฟอร์เนียเรียก ร้องให้ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันระหว่าง ปฏิบัติหน้าที่
นอกจากกรณีนี้แล้ว การรับส่งเอสเอ็มเอสก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมา แล้วหลายต่อหลายครั้ง ผลสำรวจล่าสุดของ Nationwide Mutual Insurance พบ ว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ร้อยละ 20 ในสหรัฐฯ ยอมรับว่า ส่งเอสเอ็มเอสขณะขับ ขี่ โดยอยู่ในกลุ่มผู้ขับขี่ที่มีอายุ 18-24 ปี ถึง 50% เลยทีเดียว
มีผู้พยายามศึกษาถึงอันตรายที่เกิดจากการส่งเอสเอ็มเอสขณะขับขี่รถ ยนต์ อย่างเช่น ศาสตราจารย์โดนัลด์ ฟิสเชอร์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมสซาชู เซทท์ ซึ่งศึกษาการตอบสนองของผู้ขับขี่ขณะส่งเอสเอ็มเอสพบว่า ความเสี่ยงที่ จะขับรถพุ่งชนคันที่อยู่รอบข้างเทียบเท่ากับการดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอ ฮอลล์ 3-4 แก้ว เลยทีเดียว
รัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ยังไม่มีกฏหมายห้ามส่งเอสเอ็มเอสขณะขับรถ ผู้เชี่ยวชาญ บางคนเชื่อว่า การออกกฎหมายยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา แคทเธอรีน แมน กู-วอร์ด จาก Reason Magazine กล่าวว่า ยังมีวิธีอื่นที่สามารถทำให้คน อเมริกันมีจิตสำนึกในเรื่องนี้โดยไม่ต้องใช้กฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผู้สูญเสียอย่างเช่นคุณแม่ผู้นี้ซึ่งเสียลูกชายไป ต่อหน้าต่อตา ด้วยอุบัติเหตุบนถนนอันเนื่องมาจากผู้ขับขี่กำลังดาวน์โหลด เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ มีความเห็นว่า คนส่วนใหญ่ประเมินความสามารถ ของตัวเองในการทำสิ่งต่างๆ ไว้สูงเกินไปขณะขับรถ อุบัติเหตุจึงเกิดขึ้น
นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งของผลการศึกษาที่บ่งชี้ถึงโทษภัยของการใช้โทรศัพท์ มือถือขณะขับรถ หลายท่านที่เคยส่งเอสเอ็มเอสขณะขับรถก็ขอให้เลิกพฤติกรรม นี้ เพราะความเสียหายไม่ได้เกิดกับคุณเองเท่านั้น แต่ยังเกิดกับคนรอบข้าง อีกด้วย. |
|
No comments:
Post a Comment